ความดันบรรยากาศวัดได้อย่างไร
ความดันของอากาศมีค่าเท่ากับความดันของน้ำที่สูงประมาณ 10 เมตร และเนื่องจากการวัดความดันอากาศด้วยน้ำไม่สะดวก นักวิทยาศาสตร์จึงใช้ปรอทซึ่งเป็นของเหลวที่มีความหนาแน่นมากกว่าน้ำถึง 13.6 เท่าที่ระดับน้ำทะเลแทน นักวิทยาศาสตร์พบว่า อากาศสามารถดันปรอทให้สูงขึ้นไปสูงสุด 76 เซนติเมตรหรือ 760 มิลลิเมตร พร้อมทั้งเรียกความดันอากาศที่สามารถดันปรอทให้สูงขึ้นไป 760 มิลลิเมตรว่าเป็น ความดัน 1 บรรยากาศ หรือมีค่าเท่ากับแรงดันประมาณหนึ่งแสนนิวตันต่อตารางเมตร
บันทึกผลการทดลอง
ตารางบันทึกความดันบรรยากาศ วันที่ ….2…ถึงวันที่..8… เดือน …….มกราคม………. พ.ศ. …..2559……
สถานที่ตรวจวัด |
ค่าความดันบรรยากาศที่อ่านได้ในแต่ละวัน (หน่วย) |
||||||
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
|
ห้องเรียน |
5.3 |
4.8 |
5.2 |
5.3 |
5.1 |
4.9 |
5.0 |
ห้องวิทยาศาสตร์ |
5.8 |
5.3 |
5.7 |
5.8 |
5.6 |
5.2 |
5.5 |
นักวิทยาศาสตร์ได้นำมาสร้างเครื่องวัดความกดอากาศ ซึ่งมีอยู่หลายชนิดดังนี้
1. อัลติมิเตอร์ใช้หลักการเดียวกันกับแอนิรอยด์บารอมิเตอร์ แต่เทียบความดันของอากาศเป็นความสูง สำหรับใช้งานในเครื่องบิน หรือนักกระโดดร่มใช้เพื่อบอกความสูง
2. บารอมิเตอร์แบบปรอท เป็นเครื่องมือง่ายๆ ประกอบด้วยหลอดแก้วกลวงยาวปลายข้างหนึ่งปิด มีปรอทอยู่เต็มหลอดแก้ว คว่ำหลอดแก้วลงให้ปลายเปิดอยู่ในอ่างปรอท ปรอทจะอยู่สูงในหลอดแก้ว
ประมาณ 760 มิลลิเมตร ที่ว่างเหนือปรอทเป็นสุญญากาศ เมื่อความกดอากาศสูงขึ้นไปในหลอดแก้วสูงขึ้น ปรอทจะขึ้นไปในหลอดแก้วสูงขึ้น
3. แอนิรอยด์บารอมิเตอร์ ประกอบด้วยตลับโลหะรูปร่างกลมแบนที่สูบอากาศออกเกือบหมดตรงกลางตลับนี้มีสปริงต่อไปยังคานและเข็มที่ชี้บนหน้าปัด เมื่อความกดอากาศเปลี่ยนไป ตลับโลหะจะพองขึ้นหรือแฟบลง ทำให้สปริงดึงเข็มชี้ไปบนหน้าปัดตามความกดอากาศ มีทั้งแบบแขวนและแบบตั้งโต๊ะ
4. บารอกราฟ เป็นเครื่องวัดความกดอากาศที่ใช้แอนิรอยด์มิเตอร์นั้นเอง แต่ต่อปลายเข็มชีกับปากกา ซึ่งสามารถขีดเขียนลงบนกระดาษกราฟที่หมุนด้วยจานนาฬิกา ทำให้บันทึกความดันของอากาศในเวลาต่างๆ ทั้งวันได้จากเส้นกราฟ